สุนัขคาบข่าว

มีเรื่องเล่ากันว่า เมื่อสมัยแผ่นดินพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย รัชกาลที่ ๒ มีเหตุสำคัญให้ต้องเปลี่ยนเวลาเสด็จลงมาทรงบาตร จาก ๗ โมงเช้าที่ถือปฏิบัติมาแต่รัชกาลต้น เป็น ๙ โมงเช้า เหตุอันเนื่่องมาจาก “อีกา” เรื่องของเรื่องคือมีผู้หนึ่งโยนก้อนกระดาษเข้ามา ขณะที่อีกาซึ่งมักรบกวนพระสงฆ์ตอนทรงบาตรเห็นเข้านึกเอาว่าเป็นก้อนข้าวสุกก็คาบไป แล้วทิ้งไว้หน้าพระที่นั่ง

กระดาษแผ่นนั้นเองทำให้ทรงทราบความว่ามีผู้คิดก่อการกบฎ จึงทรงสั่งให้ปราบเสียให้สิ้น และทรงโปรดฯ หุงข้าวสุกเลี้ยงอีกาวันละสามกะทะ ทำนุบำรุงชุบเลี้ยง

เรื่องอีกากับก้อนกระดาษจึงเป็นที่มาของสำนวน “อีกาคาบข่าว

ย้อนไปสักหลาย ๆ ปี ในรัชกาลปัจจุบัน มีเรื่องเล่าตำนานใหม่ว่าด้วยเดรัจฉานอีกชนิด มีสุนัขซึ่งมิได้ทรงเลี้ยงโดยตรงแต่มีหน้าที่ต้องอยู่ดูแลในวัง สุนัขนั้นมีใจคดเห็นแก่อามิส ค่อยกางหูฟังว่า “คนใน” พูดจาอย่างไรแล้ว “บันทึกเสียง” นั้นให้คนนอก

ความแตกถูกจับได้ สุนัขใจคดตัวนั้นจึงถูกขับพ้นสถานที่ เป็นที่มาของสิ่งนี้

letter2 letter1[4]

แม้ผู้ให้อามิสและรับสารถูกขับพ้นจากเก้าอี้วันเด็ก ร่อนเร่พเนจรมิเป็นหลักแห่ง หากแต่ “สุนัขคาบข่าว” ยังคงมีบทบาทบางระดับ ในยุค “เด็กกะล่อนสร้างบ้าน” สุนัขคาบข่าวตัวนั้นจะเป็นใหญ่!!

Posted in เรื่องเล่า. Bookmark the permalink. Print

About n/e

ชายไทยไม่ระบุชื่อ สิ่งมีชีวิตเขตร้อน เกิดและเติบโตเหนือเส้นศูนย์สูตรเล็กน้อย รักในกาแฟรสขมเข้ม นิยมความเงียบ กินอยู่หลับนอนกับแมว ๑๖ ชีวิต

Use Coupon Code: CYBERMONDAY2010 for 50% OFF

6 Responses to สุนัขคาบข่าว

  1. อาม่า says:

    และท่าจะเป็นใหญ่จริงๆ นะ

    เพราะเค้าเล่าว่าเคลียร์แล้ว ทั้งปี

    ภายใต้รัฐบาลมาร์คนี้

    มีอะไรที่ทำไม่ได้

    (ถ้างานนั้นเป็นงานห้อยๆ) :555+:

  2. Pad Th-ra says:

    คนตัดสินใจสุดท้าย จะบอกว่าไม่รู้เหนเปนใจไม่ได้

  3. ้hatyai-an says:

    ที่สุด ก็ผ่านฉลุยไปแล้ว ด้วยคะแนนโหวต 8 : 0

    เมื่อกี้ พี่หลวงเข้าไปอ่านข่าวใน ผู้จัดการออนไลน์ เห็นมีคนโพสต์ข้อความว่า

    คนที่ขุดคุ้ยเรื่องนี้ เป็นคนที่ไม่รู้จริง

    น้องเน ว่าไงละ?

  4. n/e says:

    @้hatyai-an:

    สวัสดีครับพี่หลวง หายหน้าหายตาไปนานนะครับ

    จริงไม่จริงก็สอบถามเหตุผลเอาจากเอกสารทั้งสองฉบับก็ได้ ว่ามีนัยอย่างไร

    ส่วนเนื้อความตามท้องเรื่อง คงไม่สามารถบอกได้ จากใคร ที่ไหน อย่างไร

  5. hatyai-an says:

    ไม่ได้หายไปไหน…

    พี่หลวงเข้ามาเยี่ยม อยู่บ่อยครั้ง.. เกือบจะทุกวันเสียด้วยซ้ำ แต่ไม่ได้ส่งเสียงทักทายเท่านั้น

    พูดได้ว่า พี่หลวงนั่งอยู่ที่นอกชานหน้าบ้านของน้องเนนั้นแหละ แต่ไม่ได้ขึ้นไปบนบ้าน…เรายังอยู่ใกล้กัน นะน้องเน นะ และก็หลายปีมาแล้ว…

  6. n/e says:

    @hatyai-an:

    ทราบข่าวอย่างนี้ก็ดีใจ เราสนทนาด้วยตัวหนึ่งสือผ่านที่นี่มาก็หลายปีแล้วจริง ๆ หวิด ๆ จะได้เจอกันจริง ๆ ในภาคสนามแล้วด้วย

    ตอนนี้เหนื่อยกะเรื่องพระวิหารแทบไม่ได้หยุด จะขอแรงมาช่วยกันหน่อยครับ