Tag Archives: อภิสิทธิ์

ก่อแต่ความฉิบหาย

นับเนื่องจากประมาณกลางเดือนธันวาเมื่อสองปีก่อน กระทั่งวันนี้ประเทศไทยมีนายกหนุ่มที่ว่ากันว่ารูปหล่อและเป็นความหวังของบรรดาผู้สนับสนุน เพียบพร้อมทั้งรูปสมบัติ คุณสมบัติ ชาติตระกูล การศึกษา ที่ขาดเพียงอย่างเดียวคือทั้งชีวิตไม่เคยทำอะไรเลย ..บ้างก็ว่ามีใครที่ดีกว่านี้อีกไหม บ้างยอมจำนนต่อสภาวะไม่มีตัวเลือก  (..ผมว่าผมเป็นนายกฯ ได้ และเป็นได้ดีกว่านายอภิสิทธิ์!) หากถามว่านับแต่วันที่เข้ารับตำแหน่ง ประกาศยุติการเมืองที่ล้มเหลว ยุติความแตกแยก แก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ ขจัดคอร์รัปชั่น มีอะไรบ้างที่เป็นชิ้นเป็นอันตามลมปาก? สองปีที่ผ่านมาในด้านการเมือง ประเทศไทยของเราขยับห่างจากคำว่า “การเมืองที่ล้มเหลว” สักครึ่งก้าวหรือเปล่า หรือเรายังคงจมอยู่กับการเมืองโสโครก ที่ในหลายมิติก็แย่ยิ่งกว่าหรืออย่างน้อยสุดก็พอ ๆ กับสมัยของทักษิณ ชินวัตร เราเห็นนักการเมืองประพฤติแต่เรื่องเลว ๆ ทำเรื่องทุเรศทุรังอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน เป็นที่สะอิดสะเอียนและน่ารังเกียจจนป่วยการจะยกตัวอย่าง ที่ถ้าจะเรียงประเด็นก็เห็นว่าผมจะแก่ตายก่อนจะเขียนหมด ตัวนายกรัฐมนตรีเองก็ล้มเหลว ล้มละลายในสภาวะการเป็นผู้นำ แทบจะไม่สามารถบังคับบัญชาข้าราชการ หน่วยงานรัฐ หรือรัฐมนตรีร่วมคณะได้เลย ตัวนายอภิสิทธิ์เองก็เล่นสองหน้า บทชั่วให้นายสุเทพขณะบทตัวดีรับเอง แต่ระยะหนึ่งปีให้หลังลายเริ่มออก … To be continue


Posted in ทัศนะ

|

Tagged

|
11 ความเห็น

กะล่อน

เมื่อคืนดูรายการเมืองไทยรายสัปดาห์ คุณสนธิ ลิ้มทองกุล “จัดชุดใหญ่” ถลกความปลิ้นปล้อนของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ สะกิดกับคำพูดเล็ก ๆ ที่คุณสนธิกล่าวถึงนายอภิสิทธิ์ว่า “กะล่อน” คำพูดเดียวกันที่ผมเขียนถึงเมื่อเดือนกันยายนปีที่แล้ว เป็นข้อสรุปจากข้อสังเกตใน ๒ กรณี คือการเช่ารถเมล์เอ็นจีวีและปราสาทพระวิหาร วันนั้นเราได้ข้อสรุปจากการติดตามสถานการณ์มาต่อเนื่องว่านายกรัฐมนตรีหนุ่มผู้นี้ “กะล่อน ปลิ้นปล้อน ตอแหล”

ในรายการเมืองไทยฯ คุณสนธิและพิธีกรนำคลิปคำชี้แจงของนายอภิสิทธิ์ ต่อกรณีการจับได้ไล่ทันที่คุณคำนูณ สิทธิสมาน เปิดเผยข้อหมกเม็ดในร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา ๑๙๐ ที่แยกวรรค (ย่อหน้า) มีผลให้การดำเนินการใด ๆ หรือทำหนังสือสัญญาใด ๆ ที่มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงเขตแดน ไม่ต้องเปิดเผยข้อมูล ไม่ต้องฟังความเห็นจากประชาชน ไม่ต้องชี้แจงต่อรัฐสภา เพียงแค่แสดงเจตนาก็มีผล และนำเข้ารัฐสภาเพื่อขออนุมัติเพียงอย่างเดียว To be continue


Posted in ทัศนะ

|

Tagged

|
8 ความเห็น

อภิสิทธิ์เป็นนักการเมืองสมบูรณ์แบบ

ช่วงเวลาประมาณหนึ่งเดือนที่ผ่านมาพิสูจน์สัจจะนี้ซ้ำ ๆ อย่างนับครั้งไม่ถ้วน ผ่านตัวเอกที่ภาพดีมากจนเหลือเชื่อ คือ ตัวนายกรัฐมนตรี อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ด้วยชาติตระกูล การศึกษา ภาพลักษณ์ บุคลิกท่าที การพูดจาที่ดูเหมือนจะมีเหตุผล มีน้ำหนัก น่ารับฟัง น่าเชื่อถือ

หากไม่ได้ติดตามและรู้จริงในสิ่งที่บุรุษหนุ่มผู้นี้พูด ฉาบฉวยผิวเผินไปตามข่าวก็คงไม่ยากจะหลงไหลคล้อยตาม ทั้งที่การให้เหตุผล คำอธิบายแต่ละครั้งนั้นแทบไม่อยู่บนเส้นตรงเดียวกัน เป็นเหตุเป็นผลที่ผลิตใหม่ตามกรรมตามเวลา และตามการถูกจับได้ไล่ทัน To be continue


Posted in ทัศนะ

|

Tagged

|
Comments Off

ภาพชุมนุมคัดค้านแก้ไขรัฐธรรมนูญ ๒๓ พฤศจิกา ๕๓

วานนี้ (๒๓ พฤศจิกายน) เป็นวันแรกของการประชุมร่วมสองสภาเพื่่อพิจารณาแก้ไขรัฐธรรมนูญในสองมาตรา และเป็นวันแรกที่พันธมิตรฯ เคลื่อนไหวเพื่อชุมนุมคัดค้านที่หน้ารัฐสภา เจ๊หน่อย นิม และผม นัดหมายไปร่วมชุมนุมครั้งนี้ซึ่งเป็นจุดยืนเดิมตั้งแต่ครั้งชุมนุม ๑๙๓ วัน และนับครั้งแรกในรอบสองปีที่หยิบเสื้อผ้าเดิม ๆ มือตบอันเดิม ๆ ที่มีอายุกว่าสองปีกลับมาใช้งานอีกครั้ง แม้เพื่อนเก่าที่เหมือนจะมีทิศทางใกล้เคียงกันอย่างประชาธิปัตย์เมื่อครั้งนั้น บัดนี้ยึดหลักการใหญ่คือประโยชน์ตัวเอง แก้มาตรา ๑๙๐ เพื่ออำนวยความสะดวกในการ “ขายชาติ” โดยไม่ขัดรัฐธรรมนูญ และพ่วงประโยชน์พรรคร่วมในการแก้ระบบเขตเลือกตั้ง เพื่อหนีเหตุการณ์เฉพาะหน้าแล้วกลับมารวมตัวกันใหม่ จังไรกว่าเดิม เหตุนี้ พวกเราที่ไม่เคยเปลี่ยนแปลงเลยตลอดสองปีที่ผ่านมา จึงต้องกลับมาที่เดิม เมื่อวานอากาศอบอ้าวมาก เล่นเอาสะบักสะบอมไปตาม ๆ กัน ร้อนจนแทบลิ้นหอย (แต่ปากไม่ห้อย) กันเลยทีเดียว นิมและผมถ่ายภาพบรรยากาศเมื่อวานมาฝากสำหรับท่านที่ไม่ได้ไปร่วมเมื่อวานนี้


Posted in ภาพ, ความเคลื่อนไหว

|

Tagged , ,

|
3 ความเห็น

ไกลกว่านั้น

สิ่งที่จะเขียนอาจเป็นความคับแคบ ความไม่รู้ ความอ่อนด้อย หรือความโง่เขลาเฉพาะตัวของผมเองก็เป็นได้ ทั้งอาจเป็นความที่ไม่เคยอยู่ในอำนาจ ไม่คิดมีอำนาจ ไม่ได้อยู่ในวงจรโสมมของการเมือง สัมผัสกับสิ่งปฏิกูลที่เรียกว่า “ท่านผู้ทรงเกียรติ” และ “รัฐมนตรี” ตัวอักษรที่ถ่ายทอดความคิดนับจากบันทัดนี้อาจผิดทั้งหมดก็เป็นได้ หลังสิ้นการชุมนุม ๑๙๓ วัน และการขึ้นมีอำนาจของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ จากแก๊งการเมืองประชาธิปัตย์ ดูค่อนข้างสอดคล้องกับทิศทางการเมืองโลกที่เข้าสู่ยุคการผลัดเปลี่ยนผู้นำเป็นคนรุ่นใหม่ กระแสอาจเริ่มที่ประเทศล้มละลายและอันธพาลโลกอย่างอเมริกา เพียงแต่ผมไม่มี “ความเชื่อ” ว่าบรรดาผู้นำเหล่านี้มี “ความสามารถ” มองว่าทั้งหมดเป็นแต่เพียง “มายาภาพ” ที่ถูกสร้างเป็นกระแสผ่านวาทกรรมและการโฆษณาชวนเชื่อ ในวันที่นายอภิสิทธิ์เข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี สุนทรพจน์แรกและกฎเหล็ก ๙ ข้อ ต่างได้รับการสรรเสริญ ทั้งประวัติเรียงความเมื่อวัยเยาว์ หรือคำบอกเล่าของพี่สาวที่บอกว่าน้องชายซื้อเสื้อผ้าเองไม่เป็น เป็นคนสมถะมาก ผมอาจจะเป็นเพียงคนส่วนน้อยที่ “ตั้งแง่” (โปรดย้อนอ่านบทความเก่า ๆ ) … To be continue


Posted in ทัศนะ

|

Tagged

|
7 ความเห็น