ไม่มีอะไรเป็นที่ต้องสงสัยเลยว่าทำไม สุเทพและประชาธิปัตย์ประเคนทุกอย่างให้เนวิน ชิดชอบ เมื่อคำตอบจากปากชัดเจนจากวงประชุมพรรคว่า “ไม่มีเขาเราตั้งรัฐบาลไม่ได้” ครับก็จะจดจำไว้ให้ขึ้นใจ เพราะวันไหนที่จะลุกมาล้มรัฐบาลประชาธิปัตย์จะทำได้โดยสะดวกใจ ไม่ตะขิดตะขวงใจว่าเคยเป็นมิตรกันมาแต่หนหลัง ครับ เนวินและเขยซีพีเป็นผู้มีบุญคุณอย่างสูงส่งต่อพรรคประชาธิปัตย์ในการจัดตั้งรัฐบาล ก็ชวนให้นึกสงสัยว่าสิบสุเทพ และโดยเฉพาะ “สิบอภิสิทธิ์” จะมีปัญญาเป็นนายกฯ ด้วยตัวเองหรือไม่ หากพันธมิตรไม่ลุกขึ้นสู้และล้ม “นักโทษชาย” จนราบ? ก็อีกนั่นแหละเราไม่ได้ทำเพื่อเขา ฉะนั้น ไม่เป็นบุญคุณต่อกัน! วันก่อนเห็นหลายคนยิ้มจนแก้มปริ น้ำหูน้ำตาไหลฟังนายอภิสิทธิ์ แถลงอย่างเป็นทางการหลังรับพระบรมราชองค์การโปรดเกล้าแต่งตั้งฯ ผมฟังด้วยคงความงงว่าทำไมเจอปนกลิ่นโอบาม่าเยอะจัง? Yes, we can! ยกนิยายคุณยายเนียมขึ้นมาว่า จะโดยสุจริต หรือเป้าหมายทางการเมืองที่จะเอาใจอีสานอย่างที่เป็นประเพณีปฏิบัตินับเนื่องมาตั้งแต่สมัยจอมพลสฤษดิ์ก็ตามแต่ นอกจากกลิ่นเมกาโชยฟุ้ง ยังชวนให้นึกถึงสมัย “นักโทษชาย” นำ “ยายฮาย” มาทำมาหาเสียง และรับลูกไปทำมาหาแดกต่อโดย “สรย้วย” ที่กระแสซาก็ไม่มีใครเหลียวแลอีกเลย!? … To be continue →

นั่งดูจังหวะเต้นของบ้านเมืองตลอดช่องสัปดาห์ที่ผ่านมา ดูความจะเป็นไปและความเคลื่อนไหวของภาคส่วนต่างๆ ดูเหมือนจะมีความชื่นมื่นและมีความหวัง หลังการลงมติเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่ หลายเสียงเล็กๆ รายรอบเป็นเสียงของความยินดี ส่วนหนึ่งเป็นเพราะความรักชอบชื่นชม บางส่วนเป็นเสียงแห่งความหวังว่าอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และพรรรคประชาธิปัตย์จะพาชาติผ่าวิกฤติที่ขมุกขมัวมาตั้งแต่ปี ๔๘ ออกไปได้ โดยเฉพาะวิกฤติจากเศรษฐกิจโลกอันสืบเนื่องมากจากกินตัวเองของความมักมากไม่สิ้นสุดของระบบทุนนิยม ที่เริ่มกระทบต่อเศรษฐกิจไทยชัดขึ้นทุกขณะ รวมถึงความขัดแย้งในสังคมที่ปริแตกชัดเจน และยากที่จะแก้ไขเยียวยา ขณะที่หลายเสียงเป็นเสียงของการให้โอกาส ทั้งการพิสูจน์ตัวเองของนายอภิสิทธิ์และการพิสูจน์ทางออกสุดท้ายของการแก้ปัญหาด้วยการเมืองในสภา โดยยอมจะละเลยความสกปรกของที่มาและความเป็นจริงในการแย่งชิงจัดตั้งรัฐบาลครั้งนี้ หากจะว่ากันโดยยืนบนข้อเท็จจริง คงต้องบอกว่าสกปรกพอกันทั้งสองฝ่าย โดยที่เพื่อไทยไม่มีสิทธิโวยวายเรื่องการจ่ายเงิน เพราะตัวเองก็ทุ่มจ่ายแต่แพ้ในตลาดประมูลควาย อีกทั้งเพื่อไทยไม่มีสิทธิใดใน การอ้างเสียงข้างมาก ที่หากเชื่อในระบบเลือกตั้งตามปากว่าก็ต้องพูดกันชัดๆ ว่า เพื่อไทยไม่เคยผ่านการเลือกตั้ง พรรคประชาธิปัตย์เป็นพรรคที่ผ่านการเลือกตั้งและมีเสียงเป็นอันดับหนึ่งในสภา ข้อสังเกตประการหนึ่ง คือ ไม่มี ส.ส. คนใดเลยในแก๊งเพื่อไทยขานชื่อโดยระบุว่ามาจากพรรคเพื่อไทย? ก็เป็นเรื่องแปลกและส่งกลิ่นเช่นกันที่ทุกครั้งเวลาจะลงคะแนนอะไร โดยเฉพาะตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ต้องออกมาอ้าง “มติพรรค” แต่คราวนี้พอไม่มีพรรคสังกัดแน่ชัด ดันทะลึ่งจะเคารพกฎหมายขึ้นมาดื้อๆ … To be continue →

ผมไม่ทราบหรอกครับว่า ผลที่สุดของการเสวนา “รัฐบาลเฉพาะกาล” ที่นำไปสู่การถวายฎีกาเมื่อ ๙ โมงเช้าวันนี้นั้นนำไปสู่อะไร แม้เบื้องแรกจะชัดในหนทางและความคิด แต่ยังต้องผ่านวิถีคิดเก่าขององคมนตรี และถึงที่สุดแล้วจะออกมาอย่างไร หรือได้ใครมาเป็นรัฐบาลเฉพาะกาล เป็นความไม่แน่นอนที่ตั้งอยู่บนความไม่แน่นอน ขณะที่การผลัดขั้วจัดตั้งรัฐบาลซึ่งดูเหมือนจะเป็นความแน่นอนในระดับหนึ่งแล้ว ที่สำทับด้วยการแถลงข่าวของอดีตพรรคร่วมรัฐบาลวันนี้ ที่กระแสข่าวหนึ่งบอกว่า ‘คุณหญิง ๓ ปี’ สู้แค่ ๒๐ ล้าน หรือข่าว ‘ลูกห้อย’ ปัด “ทุกอย่างจบแล้วครับนาย” หรือข่าว ‘เสด็จพี่’ เหลี่ยมต่อสายตรงคนนั้นคนนี้ ดิ้นพล่านกระทั่งขอช่วย ‘คนถ่อยอุดร’ ขวัญชัย ไพรพรา ที่เรียกได้ว่าลงต่ำอย่างยิ่งแล้ว ภาพความเคลื่อนไหวจัดตั้งรัฐบาลของพรรคประชาธิปัตย์วันนี้ทำให้ผมนึกถึงวันเก่าๆ เมื่อปี ๔๓-๔๔ ในวันที่ทักษิณ ชินวัตร ตั้งพรรคการเมือง ภาพหนึ่งถูกฉายในลักษณะเป็นความหวังอันเรืองรองของวิถีการเมืองใหม่ ที่จะไม่จมอยู่กับความขัดแย้งแบบเดิมๆ … To be continue →